7 สัตว์มหัศจรรย์ ใต้ท้องทะเลอันดามัน

Mamy Booking - Blog

เป็นกันไหมคะ เวลาไปดำน้ำทีไรเราก็เจอปลานู่นนี่ ประการังอันนั้นอันนี้ตั้งหลายอย่าง แต่พอขึ้นจากน้ำมาเราจำปลานีโม่ได้ตัวเดียว อาจจะเป็นเพราะว่ามันจำง่าย น่ารัก และเคยเป็นพระเอกหนังการ์ตูนมาก่อน เราเลยคุ้นกับมันมากกว่าปลาตัวอื่นๆ หรือบางทีเราไปดำน้ำ หวังจะพึ่งให้ไกด์พาไปทำความรู้จักกับปลาตัวใหม่ๆ ไกด์ก็จะชอบพาเราไปดูแต่ปลาการ์ตูน 555555 บางทีก็อยากรู้จักปลาตัวอื่นบ้างไงคุณพี่
ช่างมัน ชั้นไม่ง้ออ ว่ายไปถ่ายรูปมาเก็บไว้และก็เอามาเสิร์ชหาในอินเทอร์เน็ตเองละกัน
วันนี้หม่ามี๊ก็เลยได้รวบรวมสิ่งมีชีวิตต่างๆ ใต้ท้องทะเลไทยที่หม่ามี๊ได้เคยไปพบเจอมาฝากทุกคนกันค่ะ

1. ปลาการ์ตูน (Clownfish)
ขาดสุดหล่อนี่ไปไม่ได้เลย เป็นปลาพระเอกที่ใครไปทะเลทางใต้ยังไงก็ต้องได้เจอ นั่นก็คือ “ปลาการ์ตูน หรือเจ้านีโม่นั่นเอง” แต่พระเอกตัวนี้เจอแล้วขอลายเซ็นต์ไม่ได้นะคะ หยิ่ง ให้ถ่ายรูปอย่างเดียว
ถ้าดำๆ น้ำอยู่แล้วเจอดงดอกไม้ทะเลสยายหนวดพริ้วไหวไปกับสายน้ำอยู่ก็นั่นแหละค่ะ บ้านของเจ้านีโม่เขาเลย นีโม่กับดอกไม้ทะเลเขาเป็นเพื่อนบ้านที่รักกันดีสุดๆ ค่ะ พึ่งพาอาศัยกันตลอด นีโม่จะใช้ดอกไม้ทะเลเป็นหลุมหลบภัยและแหล่งหาอาหาร เพราะในปลายหนวดที่อ่อนนุ่มของดอกไม้ทะเลจะมีเข็มพิษจำนวนมหาศาล พอมีปลาว่ายหลงผ่านมา ดอกไม้ทะเลก็จะใช้หนวดพิษทิ่มเหยื่อให้เป็นอัมพาต และใช้หนวดจับเข้าปาก ทำให้ไม่มีปลาตัวไหนกล้าเข้าใกล้ดอกไม้ทะเล ยกเว้นเจ้านีโม่นี่แหละค่ะ ที่เที่ยวว่ายหาสาหร่ายกินอยู่รอบๆ พอมีศัตรูมาบุก จะได้รีบหนีว่ายหลบเข้าไปในดงดอกไม้ทะเลได้อย่างปลอดภัย สาเหตุที่พี่แกไม่เป็นอะไรก็เพราะว่า พี่แกมีเมือกที่เป็นเกราะป้องกันพิษจากดอกไม้ทะเลอยู่ ถ้าเมื่อไหร่ที่เมือกนั้นหายไปนางก็จะเป็นเหมือนปลาตัวอื่นๆ ค่ะ ม่องเท่งตามๆ กันไป
แต่นีโม่เขาก็ไม่ได้มาอาศัยอยู่เฉยๆ นะคะ ตอนกลางคืนเวลาที่ออกซิเจนในน้ำลดลงนีโม่จะคอยโบกครีบไปมา เพื่อให้เกิดกระแสน้ำไหลผ่านดอกไม้ทะเลเพื่อให้ออกซิเจนกับดอกไม้ทะเลอีกด้วย

 

2. ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า (Blue tang)

ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า (Blue tang)
เป็นอีกหนึ่งปลาที่โดดเด่นเป็นดาราไม่แพ้นี่โม่เลยคือ “ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า” หรือเจ้าดอรี่ขี้ลืม ที่รู้จักกันดีในการ์ตูน Finding Nemo และ Finding Dory ในวงการเลี้ยงปลาสวยงามจะเลี้ยงเจ้าดอรี่กันว่าบลูแทงก์ นางจะหากินตามแนวปะการัง จึงมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางท้องทะเลมาก เพราะจำนวนปลาบลูแทงค์สามารถชี้วัดความสมบูรณ์ของแนวปะการังในแถบนั้นๆ ได้ บลูแทงก์จะชอบอยู่ตามแนวปะการังแข็ง ถ้าในไทยนี่จะพบมากในแถวหมู่เกาะสุรินทร์ สิมิลัน ส่วนแก็งค์นี้หม่ามี๊เจอที่สิมิลันค่ะ

 

3.เต่าตนุ (Green sea turtle)

เต่าตนุ (Green sea turtle)
ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นผู้เฒ่าแห่งท้องทะเล เป็นแรร์ไอเท็มเลยนะตัวนี้ เป็นเต่าที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ พบเจอได้บ่อยที่ หมู่เกาะสุรินทร์และสิมิลันค่ะ เต่าตนุเป็นเต่าที่กินทั้งพืชและสัตว์ แต่จะกินพืชเป็นหลักพวกหญ้าทะเลหรือสาหร่ายทะเล และสัตว์ที่กินก็จะเป็นพวกปลาหรือแมงกะพรุน และด้วยความไร้เดียงสาของมันบางครั้้งก็กินถุงพลาสติกเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นแมงกะพรุน พอกินเข้าไปเยอะๆ ก็สะสมแล้วก็เป็นเหมือนเจ้าเต่าออมสินอย่างที่ทุกคนได้เห็นในข่าวกัน และจะมีข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นเยอะมากซึ่งมันแสดงให้เห็นเลยว่าทะเลบ้านเรามีขยะเยอะ ซึ่งก็ไม่ได้เกิดจากใครเลยค่ะ นอกจากมนุษย์ผู้มักง่าย ถ้ายังอยากให้ผู้เฒ่าเต่าเหล่านี้อยู่กับเราไปนานๆ ก็ต้องช่วยกันดูแล และรักษาทะเล เบื้องต้นแค่ไม่ทิ้งขยะลงทะเลก็พอแล้วค่ะ

 

4.ปลาฉลามครีบดำ (Blacktip reef shark)

ปลาฉลามครีบดำ (Blacktip reef shark)
สิ่งมีชีวิตตัวแรกพูดชื่อมาหลายคนคงจะกลัว จนไม่กล้าลงน้ำเลย ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาก็คือ “ปลาฉลามครีบดำ” ซึ่งตัวนี้จะมีนิสัยไม่ดุร้ายเท่าปลาฉลามสายพันธุ์อื่นๆ ค่ะ ตอนที่ไปเจอกันครั้งแรกหม่ามี๊ก็กลัวมากว่าเราจะโดนกินไหม เนื้อยิ่งเยอะๆ อยู่ 5555 แต่จริงๆ ถ้าเราไม่ไปรบกวนเขา เขาก็ไม่ทำร้ายเราค่ะ สามารถเจอได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามันเลยค่ะ ส่วนเจ้าตัวนี้หม่ามี๊เจอตอนที่ไปเกาะหัวใจมรกต ที่ทะเลพม่าค่ะ ปกติแล้วปลาฉลามพวกนี้จะออกหากินตอนกลางคืน ตอนกลางวันก็จะไปอยู่กลางทะเลลึกดังนั้นเวลาที่เราเจอปลาฉลาครีบดำตอนกลางวันแต่ละครั้งก็เลยเป็นข่าวตลอด เป็นปลาเซเลบเว้ออ แค่ออกมาหากินก็เป็นข่าวละ 555 นับเป็นปลาฉลามสายพันธุ์ที่สามารถพบได้บ่อยที่สุดในทะเลเลยก็ว่าได้

 

5.ปลาดาวสีน้ำเงิน (ฺBlue Sea Star)

ปลาดาวสีน้ำเงิน (ฺBlue Sea Star)
เจ้าตัวนี้เจอแล้วว้าวเลยค่ะ เพราะหม่ามี๊เพิ่งเคยเจอครั้งแรก ไม่เคยเจอกันมาก่อน พี่แกคือปลาดาวสีน้ำเงิน ปลาดาวเป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง จะมีแฉกแยกออกไปตรงนี้จะเรียกว่าแขน และใต้แขนแต่ละข้างก็จะมีหนวดสั่นๆ ที่เอาไว้สำหรับยึดเกาะ หรือเคลื่อนที่ ส่วนปากก็จะอยู่ตรงกลางด่านล่างลำตัว ปลาดาวจะกิน หอยสองฝา โดยเฉพาะ หอยนางรม เป็นอาหารหรือพวก กุ้ง ปู หนอน และ สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่นๆ ยกเว้นแต่เจ้าปลาดาวสีน้ำเงินตัวนี้เท่านั้นค่ะ นางไม่ทานเนื้อ นางกินมังสวิรัติ 55555 ตอนหม่ามี๊ไปเกาะรอกเกาะห้าที่กระบี่จะเจอปลาวดาวชนิดนี้อยู่เยอะมากเลยค่ะ น่ารักเว้ออ

 

6.ปลาสิงโต (Lion Fish)

ปลาสิงโต (Lion Fish)
เป็นอีกตัวนึงที่เห็นแล้วขนลุก เพราะหน้าตามันไม่เป็นมิตรสุดๆ ตอนเห็นปลาตัวนี้ครั้งแรกที่เกาะหัวใจมรกต แล้วยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หม่ามี๊เรียกมันว่าปลางิ้ว 555 เพราะนางมีเครื่องหัวเครื่องตัวอลังการระโยงระยางมาก แต่พอมารู้อีกทีอ่อ นางคือปลาสิงโตจ้า หน้าตาไม่เป็นมิตรแถมยังเป็นปลาที่มีต่อมพิษที่ก้านครีบแข็งทุกก้าน รวมถึงมีถุงพิษเล็กๆ อยู่เต็มรอบไปหมด แต่ว่าถ้าเกิดอุบัติเหตุไปโดนพิษเข้าจริงๆ พิษก็จะไม่ร้ายแรงอะไรเท่าไหร่ก็แค่ ทั้งอัมพาต อัมพาตชั่วคราว หรือแผลพุพอง แค่นั้นเอง 5555

 

7.ปลาปักเป้ายักษ์ (stellate puffer)

ปลาปักเป้ายักษ์ (stellate puffer)
พี่คนนี้นี่หน้าตากวนประสาทมาก ตอนไปเจอที่เกาะรอกนี่คือนางกำลังมองแรง ถ้าพี่เขาพูดได้คงพูดว่าไม่เคยเห็นปลาปักเป้าหรือไงมมนุษย์!! ธรรมชาติของพี่เป้านี่เขาจะชอบหากินตามระดับหน้าดิน อาศัยอยู่ตามแนวปะการัง คอยกินปลาเล็กปลาน้อยตามหน้าดินเป็นอาหาร ตัวนี้ถ้าเวอร์ชั่นแบบตัวโตเต็มวัยใหญ่ได้ถึง 120 เซนติเมตรเลย เป็นปลาปักเป้าชนิดที่ใหญ่ที่สุดที่พบได้ในประเทศไทย

 

8. กัลปังหา (Sea fan)

กัลปังหา (Sea fan)

อีกสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่หน้าตาเธอช่างน่าอัศจรรย์ใจ เพราะเห็นครั้งแรกก็คงคิดว่าเป็นพืชใต้ทะเลธรรมดาๆ แต่ทว่านางเป็นสัตว์ทะเลค่ะ เป็นสิ่งมีชีวิตสีสวย หน้าตาคล้ายต้นไม้ แต่จริงๆ แล้วที่เราเห็นเป็นกอๆ นั่นยังไม่ใช่ร่างจริงของพวกนางนะคะ ที่จริงแล้วนางตัวเล็กไม่ถึงครึ่งเซนติเมตรแต่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเป็นหมื่นๆ ล้านๆ ตัว ในกอนั้น ลักษณะจะเหมือนดอกไม้ทะเลขนาดเล็ก มีเนื้อเยื่อที่อ่อนนุ่ม และมีหนวดรอบปาก ปกติแล้วจะชอบอาศัยอยู่ตามที่ที่มีกระแสน้ำไหล เพราะกระแสน้ำจะช่วยพัดพาหาอาหารมาให้และก็ช่วยพัดของเสียที่ถูกปล่อยออกจากกะละปังหาออกไป คืออยู่นิ่งๆ เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่รอใช้หนวดดักจับสิ่งมีชีวิตมากินแค่นั้น ด้วยสีสันรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม ทำให้มีความเชื่อเกี่ยวกับกัลปังหามากมายไม่ว่าจะเอาไปทำเป็นเครื่องประดับ เครื่องราง หรือสมุนไพร เลยทำให้มีคนมาจับกัลปังหาไปเยอะ วกกับการทำประมงแบบลากอวนทำให้กัลปังหาถูกทำลายไปค่อนข้างเยอะ ตอนนี้กัลปังหาเป็นสัตว์คุ้มครองตาม พรบ สัตว์สงวนแล้ว ใครมีไว้ครอบครองถูกจับนะจ๊ะ